Page 47 - วิศวกรรมสาร ปีที่ 75 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม - กันยายน 2565
P. 47

การประยุกต์ใช้งานท่อเหล็กเพื่อเป็นเสาอาคารร่วมกับพื้นคอนกรีต


                         ในทางตรงกันข้าม ระบบการก่อสร้างที่น�าเหล็ก  เหล็กรูปพรรณกลวง (Hollow Steel Section หรือ HSS) มาใช้
                       (กล้า) มาใช้เป็นวัสดุรับน�้าหนักหลัก ที่เรียกว่า ระบบ  เป็นเสา (post หรือ column) เพื่อรองรับระบบพื้นคอนกรีต
                       โครงสร้างเหล็ก (steel structure) กลับไม่เป็น  ทั้งระบบพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กท้องเรียบ (reinforced concrete
                       ที่นิยมน�ามาใช้ในงานก่อสร้าง ด้วยเหตุปัจจัยที่  flat slab) และระบบพื้นคอนกรีตดึงลวดอัดแรงภายหลัง (concrete
                       ตรงกันข้ามกับระบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ทั้งจากการ  post-tensioned slab) ที่เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายใน

                       ที่ประเทศไทยยังไม่มีอุตสาหกรรมการผลิตเหล็กต้นน�้า  ประเทศไทย ด้วยเหตุที่ต้นทุนการก่อสร้างโดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบ
                       (การถลุงเหล็ก) ซึ่งเป็นการผลิตเหล็กจากสินแร่เหล็ก  concrete post-tensioned slab ที่ไม่สูงมากนัก ระยะความสูง
                       ต้องน�าเข้าเหล็กกึ่งส�าเร็จรูป (semi-finished steel  ระหว่างชั้นล่างถึงชั้นบนมีค่าน้อย และนอกจากนี้ยังสามารถหา
                       product) หรือน�าเศษเหล็ก (scrap) เพื่อเป็นปัจจัย  ผู้ให้บริการด้านงานออกแบบและงานก่อสร้างได้ง่าย ในขณะที่การ
                       ในการผลิตทั้งเหล็กเส้น เหล็กรูปพรรณ และเหล็กแผ่น   น�าเสาท่อเหล็กมาใช้แทนเสาคอนกรีตเสริมเหล็กเพื่อรับน�้าหนัก
                       ตลอดจนการแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กให้เป็นโครงสร้าง  ในแนวดิ่งที่ถ่ายมาจากพื้นนั้น การใช้ท่อเหล็กก็เป็นวัสดุที่มีประสิทธิภาพ

                       เหล็กจ�าเป็นต้องมีเครื่องมือเครื่องจักรที่ทันสมัย  ในการรับแรงอัด สามารถติดตั้งได้ง่ายโดยไม่ต้องติดตั้งไม้แบบและ
                       ต้องการวิศวกรผู้ออกแบบและผู้รับเหมาก่อสร้างที่มี  รอให้คอนกรีตแข็งตัวเพื่อรับน�้าหนักจากพื้น concrete post-
                       ทักษะเฉพาะ นอกจากนี้โครงสร้างเหล็กยังไม่เป็นที่  tensioned slab ที่จะถ่ายลงมา ให้ความแม่นย�าในการติดตั้ง และ
                       ยอมรับจากเจ้าของอาคารมากนัก ด้วยเป็นระบบที่ค่า  ที่ส�าคัญคือด้วยเสาเหล็กที่มีขนาดเล็กลงจากเสาคอนกรีตเสริมเหล็ก
                       ด�าเนินการก่อสร้างสูงกว่าระบบคอนกรีตเสริมเหล็ก  ก็สามารถอ�านวยให้พื้นที่ใช้สอยภายในอาคารเพิ่มสูงขึ้น อันส่งผลต่อ

                       หาผู้ให้บริการออกแบบและก่อสร้างได้ยากกว่า   รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการขายพื้นที่ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจน�าผลก�าไรที่
                       ตลอดจนการเสียรูป (การแอ่นตัว) เมื่อรับแรงสูงกว่า  มากขึ้นมาให้กับเจ้าของโครงการแม้ว่าอาจจะเกิดต้นทุนค่าก่อสร้างที่
                       ส่งผลท�าให้นวัตกรรมด้านวัสดุและผลิตภัณฑ์ส�าหรับ  เพิ่มสูงจากการเปลี่ยนเสาคอนกรีตเสริมเหล็กเป็นเสาท่อเหล็กก็ตาม
                       งานก่อสร้างด้วยโครงสร้างเหล็กจึงไม่ปรากฏให้เห็น    กล่าวโดยสรุป PostConnex เป็นระบบเสาท่อเหล็กรับแรง
                       ในอุตสาหกรรมการก่อสร้างในประเทศไทยมากนัก  ในแนวดิ่ง (gravity column) ที่มาพร้อมกับระบบจุดต่อ ซึ่งเมื่อ
                         แต่ด้วย ณ ปัจจุบัน ปัญหาด้านการขาดแคลน  เทคอนกรีตส�าหรับพื้นอาคารแล้ว จุดต่อดังกล่าวนี้จะถูกซ่อนอยู่
                       แรงงานก่อสร้างและค่าจ้างแรงงานก่อสร้างที่เพิ่มสูง  ในพื้นคอนกรีต โดยระบบจุดต่อจะอ�านวยการติดตั้งและถ่ายแรง

                       ขึ้นซึ่งถือได้ว่าเป็นความท้าทายที่ส�าคัญต่อผู้ให้บริการ  ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่มีส่วนประกอบใด ๆ มากีดขวางการใช้งาน
                       ก่อสร้าง กอปรกับปัญหาด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม  อาคาร การจัดตกแต่งเพื่ออรรถประโยชน์ใช้สอยภายในสามารถท�าได้
                       ทั้งความล่าช้าของการก่อสร้างอันส่งผลท�าให้การ  โดยง่าย ไม่เป็นที่เกะกะสายตายหากมองขึ้นไปยังฝ้าเพดานด้านบน
                       จราจรติดขัดต่อเนื่องไปสู่ฝุ่นละอองขนาดเล็ก     โดยหลักการและแนวคิดในเชิงวิศวกรรมโครงสร้างนั้น PostConnex
                       (PM 2.5) และฝุ่นละอองขนาดใหญ่ (PM 10) ที่เกิดขึ้น  จะมีลักษณะการถ่ายแรงที่คล้ายคลึงกับการถ่ายแรงในแนวดิ่ง

                       จากผสมและการเทคอนกรีต ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมและ  (gravity load) จากเสาอาคาร (column) ผ่านแผ่นรองฐาน (base
                       หน่วยงานภาครัฐผู้ก�ากับดูแลด้านงานก่อสร้างก�าลัง  plate) ลงฐานสู่ราก ซึ่งตัว base plate ก็จะต้องต้านทานการดัด
                       ให้ความส�าคัญเพื่อเสริมสร้างให้การพัฒนาเมืองเป็น  (bending) จากแรงดัน (pressure) ใต้ base plate ที่กระท�าโดย
                       ไปอย่างยั่งยืน สวนทางกับต้นทุนด้านเทคโนโลยีและ  ฐานรากหรือตอม่อคอนกรีต (concrete foundation or pier)
                       เครื่องมือเครื่องจักรที่ทันสมัยที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง  ด้านใต้ โดย PostConnex จะมีลักษณะการถ่ายแรงที่กลับทิศ
                       ทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลให้งานก่อสร้างด้วยโครงสร้าง  กล่าวคือ น�้าหนักบรรทุกคงที่และน�้าหนักบรรทุกจรที่ถ่ายจากพื้น

                       เหล็ก เริ่มเป็นทางเลือกที่น่าจะสร้างประโยชน์ให้แก่  อาคารคอนกรีต (concrete floor dead and live load) จะถ่าย
                       เจ้าของอาคารมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม           ลงสู่แผ่นปิดหัวเสา (cap plate) ที่ติดมากับเสาที่รองรับพื้นอาคาร
                         ด้วยเหตุดังกล่าวนักวิจัยจาก บมจ. สหวิริยาสตีล  ชั้นนั้น ๆ โดย cap plate ก็จะต้องต้านทาน bending อันเกิดจาก
                       อินดัสตรี หรือ SSI ก็ได้มีการคิดค้นนวัตกรรมจุดต่อ  แรงกระท�าจากพื้นคอนกรีต ดังเช่น base plate ที่ต้องต้านทานแรง
                       ที่เรียกว่า PostConnex ขึ้นโดยเป็นนวัตกรรมที่น�า  ดัดจากฐานรากคอนกรีต



                                                                                  ปีที่ 75 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม-กันยายน 2565  วิศวกรรมสาร  47
   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52