Page 86 - วิศวกรรมสาร ปีที่ 75 ฉบับที่ 4 ตุลาคม - ธันวาคม 2565
P. 86
อาษาเฟรมเวิร์ค
อาษาเฟรมเวิร์คกับความเป็นมา หากจะกล่าวถึงยุคดั้งเดิมของการท�างานหรือการท�าธุรกิจคือ
ในการพัฒนา การหาบริษัทที่ดีและมั่นคง การหาโลเคชั่นที่ดีเป็นหัวใจส�าคัญที่ช่วย
ให้การท�างานหรือธุรกิจประสบความส�าเร็จได้ ท�าให้ผู้คนหรือแบรนด์
ในปัจจุบันเป็นต้นไปโลกจะเข้าสู่ยุค Metaverse อย่างเป็น ต่าง ๆ พยายามหาบริษัทที่มั่นคง หาที่ตั้งร้านในท�าเลที่ดี ที่สามารถ
รูปธรรมที่จับต้องได้ ท�าให้ประตูหลักของการเชื่อมโยงทุกสรรพสิ่ง สร้างหลักประกันให้กับชีวิต สร้างหลักประกันให้กับธุรกิจสามารถ
เข้าหากันจะถูกเปลี่ยนผ่านไปสู่แอปพลิเคชันบนสมาร์ทดีไวซ์โดยมี เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายและเป็นจ�านวนมาก แต่ปัจจุบันกลับถูก
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เป็นหลังบ้าน (Backend) เพื่อน�าส่งข้อมูล สมาร์ทโฟนเข้ามาดิสรัป กลายเป็นอุปกรณ์ส�าคัญที่อยู่ข้างกาย
อย่างเชื่อมโยงแบบไร้รอยไปสู่ประชาชนทั่วโลกท�าให้เกิดการเพิ่ม ผู้บริโภค กอปรกับพฤติกรรมและความเคยชินที่ผู้คนมักจะ
ประสิทธิภาพของการด�าเนินงาน เกิดการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูในแต่ละวันไม่ต�่ากว่า 500 ครั้ง ซึ่งถือเป็น
หรือบริการด้วยแอปพลิเคชันและปัญญาประดิษฐ์ที่ครอบคลุมกลุ่ม Micro Moment ที่มีนัยยะส�าคัญเพราะสิ่งที่อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์
เป้าหมายไปทุกช่วงโดยเฉพาะสังคมผู้สูงวัยที่ก�าลังเข้าสู่สภาวะ มือถือ โดยเฉพาะแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ถูกติดตั้งไว้บนหน้าจอ
สมบูรณ์ในเร็ววัน โดยรายงานยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกประจ�า ในหน้าโฮม จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้บริโภคได้ดีและสะดวก
ปี 2019 ในไตรมาส 3 มูลค่าอยู่ที่ 352.4 ล้านเหรียญสหรัฐ และ ยิ่งกว่าการไปตั้งอยู่บนท�าเลทองหรือการได้งานในบริษัทใด ๆ
พบว่ายอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันทั่วโลกอยู่ที่ 29.6 พันล้านครั้ง อีกหนึ่งตัวอย่างของความเหลื่อมล�้าของผู้ที่จะต้องสูญเสียรายได้
คิดเป็นมูลค่า 22 พันล้านเหรียญสหรัฐ หากดูซึ่งตัวเลขที่มีอัตรา เพื่อการจัดจ้างพัฒนาแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน สนนราคาอยู่ที่
การเติบโตสูงมากในปีล่าสุดนั้นคงน่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง แต่หากจะ 1 แสนบาทถึง 7 ล้านบาทต่อ 1 แอป หากใน 1 ปีมีประชาชนหรือ
มาสังเคราะห์ลงไปในตัวเลขดังกล่าวจะเห็นสิ่งที่เป็นอันตรายมาก ผู้ประกอบการในธุรกิจด้านต่าง ๆ เช่น ธุรกิจการท่องเที่ยวหรือการ
สิ่งหนึ่งคือเทคโนโลยีด้านการสร้างแอปพลิเคชันบนสมาร์ทดีไวซ์ บริการจ�านวน 5,000 รายต้องการสร้างแอปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า
นั่นยังคงกระจุกตัวอยู่ที่บริษัทชั้นน�าหรือนักพัฒนามืออาชีพที่มาก และช่องทางการจัดจ�าหน่าย ในปีนั้นผู้ประกอบการจะต้องเสีย
ประสบการณ์เท่านั้น (Dev กระจุก, User กระจาย) เช่นห้างเซ็นทรัล ค่าใช้จ่ายรวมประมาณ 2.5 พันล้านบาทและหากมีผู้ประกอบการ
เดอะมอลล์ ร้านอาหารเอ็มเค ฟูจิ เซ็น ซิสเลอร์ พิชซ่าฮัท เคเอฟซี SME ต้องการสร้างแอปใหม่เพิ่มเติมอีกก็จะต้องเสียเงินอย่างนี้
หรือแบรนด์สินค้าระดับบน เช่น แอร์เมส, ชาแนล หรือหลุยส์ ต่อไป ไม่รู้จบนั่นเป็นเพราะไทยยังคงไปผูกติดกับแพลตฟอร์มของ
วิคตอง ส่วนประชาชน, ชุมชน, วิสาหกิจชุมชน, Micro, SME หรือ ต่างประเทศ แต่หาก SME สามารถมีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
แม้แต่หน่วยงานของรัฐก็ยากที่จะสร้างแอปพลิเคชันของตนเองขึ้นมา อาษาเฟรมเวิร์คที่เข้ามาช่วยลดความเหลื่อมล�้าให้กับวิสาหกิจชุมชน,
ท�าให้เกิดความเหลื่อมล�้าในการเปลี่ยนผ่านของภาคเศรษฐกิจและ Micro, SME สามารถสร้างแอปพลิเคชัน Metaverse ได้ด้วยตนเอง
สังคมจากยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ (Website) ไปสู่ยุคแอปพลิเคชัน จะท�าให้ประเทศไทยประหยัดเงินไปได้กว่า 2.5 พันล้านบาท และ
แบบ Metaverse ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ท�าให้ยากที่จะ เพิ่มโอกาสในการหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางและเพิ่มจีดีพี
ประกอบอาชีพเพื่อหารายได้เท่าทันบริษัทใหญ่อย่างเท่าเทียม ให้กับประเทศด้วยโมเดล BCG บนความยั่งยืนในโลกยุค Metaverse
86 วิศวกรรมสาร ปีที่ 75 ฉบับท 4 ตุลาคม-ธันวาคม 2565