Page 63 - วิศวกรรมสาร ปีที่ 74 ฉบับที่ 4 ตุลาคม - ธันวาคม 2564
P. 63
สรุปความ ปาฐกถาพิเศษ อนาคตโครงข่ายคมนาคมของประเทศไทย
เช่น M6 สายบางปะอิน - นครราชสีมา (อยู่ระหว่างก่อสร้าง) M5 ต่อขยายยกระดับอุตราภิมุข แนวทางการพัฒนา คือ ให้ภาครัฐลงทุน
(ดอนเมืองโทลเวย์) พัฒนาประสิทธิภาพทางแยกต่างระดับบางปะอิน M7 ต่อขยายเชื่อมต่อ บางส่วนร่วมกับการเปิดเอกชนให้ร่วมลงทุน
สนามบินอู่ตะเภา M81 สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี ทางพิเศษพระราม 3 ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอก และอาจจ�าเป็นให้นักลงทุนต่างชาติสามารถ
และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (ยกระดับ) สายบางขุนเทียน - บ้านแพ้ว เป็นต้น เข้ามาร่วมลงทุนได้
ในส่วนของการพัฒนาระบบคมนาคมทางอากาศ กระทรวงคมนาคมได้มีแผน อย่างไรก็ตาม มีเส้นทางคมนาคม
การเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานในภูมิภาค เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในอนาคต อีกหลายเส้นทางที่ต้องเติมเต็มเส้นทาง
เช่น การพัฒนาท่าอากาศยานเบตง ท่าอากาศยานขอนแก่น ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ เชื่อมต่อระหว่างประเทศที่ขาดหาย (Miss-
ท่าอากาศยานกระบี่ ท่าอากาศยานตรัง และท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช และการบริหาร ing Links) เพื่อเชื่อมโยงกับต่างประเทศผ่าน
จัดการทางอากาศมีหน่วยงานส�านักงานการบินพลเรือนก�ากับดูแลเพื่อให้เกิดความปลอดภัย การพัฒนาโครงข่ายถนน เพิ่มความศักยภาพ
กับภาคประชาชน ในการรองรับปริมาณยานพาหนะที่ใช้บริการ
เชื่อมต่อการเดินและระบบโลจิสติกส์
3.3 การคมนาคมขนส่งเชื่อมภูมิภาค ในภูมิภาค โดยเชื่อมโยงผ่านไปยังประเทศ
ด้วยต�าแหน่งที่ตั้งของประเทศไทยที่เป็นจุดศูนย์กลางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อนบ้าน ซึ่งกระทรวงคมนาคมมีโครงการ
ส่งผลให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางในการเดินทางเพื่อเชื่อมต่อในภูมิภาค ที่จะพัฒนา Missing Links ดังกล่าว
โดยหลักการที่ว่า ต้องเป็นรูปแบบที่คิดครบและยั่งยืนในการให้บริการ ดังนั้น ถนนโครงข่าย ประกอบด้วย
มอเตอร์เวย์ควรที่จะมีการเชื่อมต่อกันเป็นระบบ และคู่ขนานไปกับการพัฒนาทางรถไฟอยู่ใน (1) สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5
Corridor เดียวกัน เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต จึงเกิดการบูรณาการการพัฒนาโครงข่าย (บึงกาฬ-บอลิค�าไซ) จังหวัดบึงกาฬ
ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองร่วมกับทางรถไฟ (Motorways and Railways Master Plan: ระยะทาง 16 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 3,930
MR-MAP) โดยมีเส้นทางแนวเหนือ-ใต้ และเส้นทางแนวตะวันออก-ตะวันตก เชื่อมโยง ล้านบาท แผนการด�าเนินการคือจะท�าการ
ประเทศไทยเข้ากับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะต้องแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีต จึงจ�าเป็น ก่อสร้างในช่วงปี พ.ศ. 2563-2566 และเปิด
ต้องพัฒนามอเตอร์เวย์ รถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูงในเขตทางเดียวกัน โดยมีการ ให้บริการในปี พ.ศ. 2566
พัฒนาถนนคู่ขนานนอกรั้วตลอดแนวเส้นทางควบคู่ไปด้วย และมีทางแยกต่างระดับ (2) สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 6
ทุก 10 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมชุมชนสองฝั่งให้สัญจรไปมาได้ ช่วยแก้ไขปัญหาการแบ่งแยก (อุบลราชธานี-สาละวัน) จ.อุบลราชธานี
ชุมชน และเกิดการพัฒนาความเจริญของที่ดินทั้งสองฝั่งขึ้นเป็นเมืองใหม่ตลอดแนวเส้นทาง ระยะทาง 26 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 4,365
อย่างเป็นระบบ ซึ่งแนวทางการพัฒนาตามรูปแบบนี้จะไม่ตัดผ่านใจกลางเมือง แต่จะเป็นการ ล้านบาท ค่าเวนคืนที่ดิน 400 ล้านบาท
พัฒนาเส้นทางวงแหวนรอบเมืองเพื่อลดปัญหาการตัดผ่านชุมชน โดยจะมีการลงนามข้อตกลงไทย-ลาว
โดยกรมทางหลวงได้จัดท�าแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษ ในปี พ.ศ. 2565 เริ่มด�าเนินการก่อสร้าง
ระหว่างเมืองโดยบูรณาการกับการพัฒนาทางรถไฟในระดับโครงข่ายแล้วเสร็จในปี ในปี พ.ศ. 2566-2568 และเปิดให้บริการ
พ.ศ. 2564 และเริ่มด�าเนินการส�ารวจ และออกแบบรายละเอียดโครงการในปี 2565 ในปี พ.ศ. 2568
และเริ่มเวนคืนที่ดินและก่อสร้างโครงการน�าร่อง ปี พ.ศ. 2566 - 2568 โดยมี (3) สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา
(บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท) จ.สระแก้ว
ระยะทาง 25 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 3,020
ล้านบาท โดยมีแผนการเปิดให้บริการในปี
พ.ศ. 2566
(4) ถนนเชื่อมต่อศูนย์ซ่อมอากาศยาน-
สะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 จ.นครพนม
ระยะทาง 23 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 1,600
ล้านบาท มีแผนนการเปิดให้บริการในปี
พ.ศ. 2567
63
วิศวกรรมสาร ปีที่ 74 ฉบับที่ 4 ตุลาคม-ธันวาคม 2564