Page 62 - วิศวกรรมสาร ปีที่ 74 ฉบับที่ 4 ตุลาคม - ธันวาคม 2564
P. 62
สรุปความ ปาฐกถาพิเศษ อนาคตโครงข่ายคมนาคมของประเทศไทย
ทั้งนี้ การศึกษาเพื่อแก้ไขปัญหาระบบ จากปัญหาของการมีรถไฟทางเดี่ยวที่ท�าให้เกิดคอขวดในการขนส่งทางราง ท�าให้
การคมนาคมทางถนนที่เกิดจากจุดตัดหรือ กระทรวงคมนาคมต้องมีแผนพัฒนารถไฟทางคู่ทั่วประเทศเพื่อช่วยลดระยะเวลาในการ
จุดเชื่อมต่อ ซึ่งท�าให้เกิดปัญหาคอขวด ขนส่ง สามารถให้บริการที่ตรงต่อเวลามากขึ้น ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
ส่งผลให้เกิดการจราจรติดขัดในเมือง ก็เป็น ได้เริ่มด�าเนินการไปแล้ว คือ ทางคู่ระยะเร่งด่วน (พ.ศ.2560-2564) จ�านวน 7 เส้นทาง ระยะ
อีกหนึ่งประเด็นส�าคัญที่กระทรวงคมนาคม ทาง 993 กิโลเมตร โดยได้เริ่มเปิดให้บริการส่วนหนึ่งแล้ว 2 เส้นทาง คือ ชุมทางฉะเชิงเทรา-
ต้องเร่งรัดด�าเนินการในระหว่างที่ระบบ คลองสิบเก้า-แก่งคอย เพื่อเชื่อมตะวันออกกับตะวันออกเฉียงเหนือ และชุมทางถนนจิระ-
โครงข่ายการคมนาคมขนส่งทางรางและ ขอนแก่น และทางรถไฟสายใหม่ (พ.ศ.2560-2564) จ�านวน 2 เส้นทาง ระยะทาง 681 กิโลเมตร
ทางน�้ายังไม่สมบูรณ์และอยู่ระหว่างการ อยู่ระหว่างประกวดราคา 2 เส้นทาง ได้แก่ บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม และเด่นชัย-เชียงราย-
พัฒนา โดยกระทรวงคมนาคมมีโครงการ เชียงของ ส่วนทางคู่ระยะที่ 2 (พ.ศ.2565-2569) และทางรถไฟสายใหม่ระยะถัดไป
ศึกษาเพื่อแก้ไขปัญหาโครงข่ายทางถนน ยังคงอยู่ในแผนพัฒนาเพื่อที่จะขยายรถไฟทางคู่ทั่วประเทศในอนาคต เพื่อให้สอดคล้อง
อย่างยั่งยืน อาทิ แผนการแก้ไขปัญหา กับนโยบายการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Transport) โดยในอนาคตข้างหน้า
การจราจรติดขัดบนทางพิเศษในพื้นที่ อาจมีการใช้หัวรถจักรแบตเตอรี่ไฟฟ้า (EV on Train) เพื่อเปลี่ยนการใช้พลังงานฟอสซิล
กรุงเทพมหานคร และการพัฒนาจุดร่วมทาง มาใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้ได้ท�าการศึกษาเพิ่มเติมกับภาคเอกชนเพื่อที่จะพัฒนาในส่วน
แยกต่างระดับบางปะอิน ที่เป็นจุดเชื่อมต่อ ของแบตเตอรี่เพื่อน�ามาใช้ในอนาคต
ของทางหลวงระหว่างเมืองและทางพิเศษ
ระหว่างเมืองสายส�าคัญหลายสายในอนาคต
เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันโครงการดังกล่าวอยู่ใน
ระหว่างกระบวนการศึกษาของหน่วยงานที่
เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางแก้ไข
ส�าหรับการแก้ไขปัญหามลภาวะทาง
อากาศ (PM 2.5) ที่เกิดจากการขนส่ง
ในเขตเมือง กระทรวงคมนาคมได้มีการ
ศึกษาความเป็นไปได้ในการเพิ่มจุดจอดรถ
บรรทุกขนาดใหญ่ระหว่างเมืองที่ใช้พลังงาน
เชื้อเพลิงน�้ามัน บริเวณโดยรอบของชานเมือง
เพื่อเปลี่ยนถ่ายสินค้าไปสู่รถบรรทุก
ขนาดเล็ก โดยในอนาคตจะต้องพิจารณา
ถึงการปรับรูปแบบเครื่องยนต์มาใช้พลังงาน นอกจากนี้ ยังได้มีการศึกษาการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) ในภูมิภาคต่าง เพื่อเชื่อมต่อ
ไฟฟ้า (EV Truck) เพื่อลดมลภาวะที่เกิดขึ้น ระบบรางไปยังท่าเรือ เช่น สถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (Inland Container Depot :
จาการคมนาคม ICD) ย่านกองเก็บคอนเทนเนอร์ (Container Yard : CY) ศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า
(Distribution Center : DC) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดต้นทุนการขนส่งสินค้า
3.2 การคมนาคมขนส่ง ในเส้นทางระยะไกล ลดความแอดอัดบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง เพิ่มความยืดหยุ่นใน
ระหว่างเมือง การขนส่งตู้สินค้า และเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งตู้สินค้าทั้งระบบ ในส่วนของท่าเรือ
การคมนาคมขนส่งระหว่างเมือง (Port) จะน�าระบบ Automated Port มาช่วยแก้ปัญหาด้านต้นทุนในระบบโลจิสติกส์
จะต้องมีการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่ง รวมถึงการพัฒนาเส้นทางเดินเรือฝั่งอ่าวไทยเชื่อมระหว่างท่าเรือสัตหีบ-ท่าเรือสงขลา
ทางถนน (รถบรรทุก) ไปสู่การขนส่ง เพื่อเชื่อมการขนส่งสินค้าจากทางเหนือ ตะวันออก ตะวันออกเฉียงเหนือลงไปยังภาคใต้
ทางราง และทางน�้าเพื่อแก้ปัญหาต้นทุน โดยประโยชน์จากการเปลี่ยนการขนส่งจากทางบกสู่ทางน�้า (Shift Mode) เพื่อลดการจราจร
การขนส่งที่มีราคาสูง ซึ่งสอดคล้องกับ ในเขตเมือง ลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน และลดปัญหามลภาวะจากรถบรรทุก
ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการสร้างความ การพัฒนา ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (Motorways) เป็นส่วนส�าคัญในการพัฒนา
สามารถในด้านการแข่งขันให้กับประเทศ เพื่อที่จะไม่ให้รถขนส่งสินค้าเข้าไปวิ่งในบริเวณเมือง โดยมีโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง
62
วิศวกรรมสาร ปีที่ 74 ฉบับที่ 4 ตุลาคม-ธันวาคม 2564