Page 13 - วิศวกรรมสาร ปีที่ 77 ฉบับที่ 4 ตุลาคม - ธันวาคม 2567
P. 13
บทความ “การยกวัสดุในงานกู้ภัยด้วยรถเครน: ขั้นตอนและข้อควรระวัง แลประสบการณ์ จากเหตุเครนถล่ม ถนนพระราม 2”
ต�าแหน่งลวดสลิงเคลื่อนที่ และชุดตะขอยกของรถเครนในการยึดเกาะวัสดุ – โดย ในการยกชิ้นงานด้วยรถเครน 2 คัน
ทั่วไปในการยกวัสดุด้วยรถเครน จะใช้ลวดสลิงที่ห้อยชุดตะขอยกทิ้งดิ่งจากปลาย พร้อมกัน ซึ่งจัดเป็นงานยกที่ต้องมี
แขนปั้นจั่น (Crane Boom) ลงไปที่ชิ้นงานที่ยก แต่เนื่องจากชิ้นงาน Segment การจัดท�าแผนการยก จ�าเป็นที่ผู้
อยู่ในสภาพห้อยเอียงกับโครงสร้างเครน โดยลอยอยู่เหนือพื้นดิน จึงจ�าเป็นที่ต้อง บังคับรถเครนต้องมีประสบการณ์สูง
ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย เพื่อลดความเสี่ยง โดยงานนี้ใช้โดรนบินส�ารวจถ่ายภาพและ และมีการประสานงานกันอย่าง
สแกน 3 มิติน�ามาเป็นข้อมูลเพื่อหาช่องว่างที่เหมาะสม และในบางจุดที่ไม่มีช่องว่าง ใกล้ชิด รวมทั้งมีการสื่อสารกัน
ที่เพียงพอ จ�าเป็นต้องตรวจสอบหาช่องว่างโดยละเอียด และต้องใช้ทีมงานไปน�า ตลอดเวลา เพื่อตรวจสอบน�้าหนักที่
ชุดตัดเจาะไปเปิดช่องในต�าแหน่งที่สามารถหย่อนลวดสลิงน�าตะขอไปยึดเกาะ ยกเคลื่อนย้ายยังอยู่ในพิกัดที่
ชิ้นงานได้ โดยไม่มีสิ่งกีดขวางหรือเสียดสีกับลวดสลิงและอุปกรณ์ช่วยยก รวมถึง สามารถรับน�้าหนักได้ตามสัดส่วนที่
ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการหย่อนชิ้นงานลงอย่างช้า ๆ ก�าหนด หากหน้าจอแสดงผลของรถ
เครนมีการแสดงพิกัดที่เปลี่ยนแปลง
ที่มีนัยยะส�าคัญ จะต้องมีการตรวจสอบ
และประเมินใหม่จากผู้ควบคุมการ
ยกทุกครั้ง
จากสภาพชิ้นงานวัสดุที่มีการทับซ้อน
กันไปมา และบางชิ้นงานอยู่ในสภาพ
ที่เสียเสถียรภาพจากเหตุการณ์
ที่เกิดขั้น ทีมงานวิศวกร วสท. ได้
ท�าการติดตั้ง Sensors จับความ
เคลื่อนไหวในหลายแกนรอบแนวคาน
และเสารับ Segment โดยติดตั้งที่
ภาพที่ 8: ภาพด้านบนจากการส�ารวจ น�ามาหาช่องว่างในการหย่อนลวดสลิง คานหัวเสาด้านหน้า และที่ชุด End
Segment โดยมีทีมงานเฝ้าระวัง
ตลอดเวลาที่ท�าการยกในแต่ละ
ขั้นตอน รวมทั้งมีทีมงานส่องกล้อง
สังเกตการณ์ในจุดที่อาจมีการ
เคลื่อนตัวของโครงสร้างหรือชิ้นงาน
ที่ส�าคัญ โดยหากพบมีความ
เคลื่อนไหวที่อาจเป็นอันตราย จะมี
การประสานงานให้หยุดการยกทันที
ภาพที่ 9: ภาพด้านข้างจากการส�ารวจ น�ามาหาระยะห่างของช่องว่างในการหย่อนลวดสลิง
วิศวกรรมสาร ปีที่ 77 ฉบับที่ 4 ตุลาคม - ธันวาคม 2567 13