Page 14 - วิศวกรรมสาร ปีที่ 77 ฉบับที่ 4 ตุลาคม - ธันวาคม 2567
P. 14

บทความ “การยกวัสดุในงานกู้ภัยด้วยรถเครน: ขั้นตอนและข้อควรระวัง แลประสบการณ์ จากเหตุเครนถล่ม ถนนพระราม 2”

































                        ภาพที่ 10: ภาพแสดงต�าแหน่งติดตั้ง Sensors จับการเคลื่อนไหวของคานหัวเสา ขณะท�าการยกรื้อชิ้นงาน
                                      (Sensors ชุดจริงติดตั้งที่คานหัวเสาชุดที่โครงสร้างเครนทับอยู่)


             นอกจากนี้ ในบางกรณี อาจมีความจ�าเป็นต้องยกหรือมีการ
               ลากชิ้นงานในการยึดเกาะที่ไม่ปกติ จึงจ�าเป็นที่ต้องพิจารณา       หมายเหตุ:
               ถึงแรงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น แรงจากการเคลื่อนไหว
               (Dynamic Load), แรงกระชาก (Shock Load), แรงเสียด   บทความนี้ ใช้เพื่อเป็นแนวทางใช้รถเครนในการกู้ภัย
               ทาน (Friction Force) จากพื้นผิวที่วัสดุสัมผัส, แรงจากการ  ส�าหรับผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ข้อมูลขั้นตอนการยก

               ยึดเหนี่ยว (Tethered Force) รวมถึงแรงจากสภาพ       น�้าหนักของวัสดุ และพิกัดรถเครน เป็นการประมาณ
               แวดล้อม เช่น แรงลม การสั่นสะเทือน การเคลื่อนตัวของ  การจากการลงพื้นที่ อาจมีความคลาดเคลื่อนบางส่วน
               โครงสร้างที่ใกล้กัน เป็นต้น ในการยกจึงควรเผื่อค่าความ   ขอบคุณข้อมูลจากการลงพื้นที่เกิดเหตุ และสนทนากับ
               ปลอดภัยในระดับสูง โดยลดน�้าหนักการยกลงเหลือเพียง   หลายฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทีมงาน Ek Crane,
               60–75% ของตารางพิกัดยกของรถเครนหรือน้อยกว่า  โดย   นายช่าง อิตาเลียนไทย, อ.รุ้ง วสท., ปภ., กรมทางหลวง,

               ให้ประมาณการน�้าหนักที่ยกเผื่อไว้และให้ตรวจสอบน�้าหนัก             วสท., เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานที่หน้างานทุกท่าน
               ที่แน่นอนที่จอแสดงผลของรถเครนประกอบ เพื่อให้การยก
               เคลื่อนย้ายเป็นไปอย่างปลอดภัย ในกรณีที่เกิดเหตุให้มี
               ภาระเพิ่มเติมโดยไม่คาดคิดนั่นเอง
            จะเห็นได้ว่าแม้ว่ารถเครนจะเป็นหนึ่งในเครื่องจักรที่มักใช้ใน
          งานกู้ภัยชิ้นส่วนวัสดุขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ในการรื้อ

          ถอนชิ้นงานที่มีน�้าหนักมาก ๆ และอาจอยู่ในสภาพที่ไม่ปกติ
          มีสิ่งกีดขวาง สภาพแวดล้อม และทรัพยากรที่จ�ากัด รวมทั้งอาจมี
          ข้อจ�ากัดด้านระยะเวลา จ�าเป็นที่จะต้องมีปฏิบัติงานอย่างรอบคอบ
          และรัดกุม ต้องมีการวางแผนงานยกและด�าเนินการโดยผู้ช�านาญ
          การที่เกี่ยวข้อง โดยมีการตรวจสอบ ประเมินความเสี่ยง ปรับปรุง

          แผนการยกตามสภาพงานที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งนี้เพื่อลด
          ความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น และจะมีส่วนให้สถานการณ์กลับคืน
          สู่สภาวการณ์ปกติต่อไป

        14   ปีที่ 77 ฉบับที่ 4 ตุลาคม - ธันวาคม 2567                                               วิศวกรรมสาร
   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19